สาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ไฟหมด หรือเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ มีได้หลายปัจจัย ทั้งจากพฤติกรรมการใช้งาน ปัญหาของแบตเตอรี่เอง และปัญหาของระบบไฟฟ้าในรถยนต์ ดังนี้:
การเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทิ้งไว้: การลืมเปิดไฟหน้า, ไฟในห้องโดยสาร, หรือใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ (เช่น เครื่องเสียง, ชาร์จโทรศัพท์) เป็นเวลานานในขณะที่ดับเครื่องยนต์ จะทำให้แบตเตอรี่คายประจุจนหมดได้
แบตเตอรี่เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน: แบตเตอรี่รถยนต์ส่วนใหญ่มีอายุใช้งานประมาณ 1-3 ปี เมื่อใช้ไปนานๆ ประสิทธิภาพในการเก็บไฟก็จะลดลง
ปัญหาจากระบบชาร์จไฟ (ไดชาร์จ):
ไดชาร์จเสียหรือไม่ทำงานเต็มที่: ทำให้แบตเตอรี่ไม่ได้รับการชาร์จไฟกลับเข้าไปอย่างสมบูรณ์ในขณะขับรถ
สายพานไดชาร์จหย่อนหรือชำรุด: ทำให้ไดชาร์จทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
การจอดรถทิ้งไว้นาน: เมื่อจอดรถเป็นเวลานาน แบตเตอรี่จะมีการคายประจุออกไปเรื่อยๆ ตามธรรมชาติ และยังต้องจ่ายไฟเลี้ยงระบบต่างๆ เช่น นาฬิกา, ระบบความจำวิทยุ, และระบบกันขโมย (เรียกว่า Parasitic Drain) หากจอดนานเกินไปโดยไม่มีการสตาร์ทเครื่องเพื่อชาร์จไฟกลับ แบตเตอรี่ก็จะหมด
การรั่วไหลในระบบไฟฟ้า (Parasitic Drain ที่ผิดปกติ): มีส่วนประกอบทางไฟฟ้าบางอย่างในรถที่ยังคงกินกระแสไฟมากกว่าปกติแม้จะดับเครื่องแล้ว เช่น ไฟส่องสว่างในห้องเก็บของ/กระโปรงท้ายที่ไม่ดับ, รีเลย์เสีย, หรือการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่มเติมที่ไม่ถูกต้อง
ขั้วแบตเตอรี่หลวมหรือมีคราบขี้เกลือ/สนิมเกาะ: สิ่งเหล่านี้จะไปขัดขวางการไหลของกระแสไฟฟ้า ทำให้ระบบชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ได้ไม่เต็มที่
สภาพอากาศที่รุนแรง: อากาศที่ร้อนจัดหรือเย็นจัดเกินไปอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพและทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่สั้นลง
แบตเตอรี่สรรพาวุธ แบตเตอรี่บางนา เปลี่ยนนอกสถานที่, หน้าร้าน บริษัทขายปลีก-ส่งทั่วประเทศ